รับซื้อเพชร

ทางเว็บไม่อนุญาตให้โพสโฆษณา ประชาสัมพันธ์ใดๆ ทั้งสิ้น ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในเว็บไซต์ หากพบทางเว็บจะทำการลบทันที


เจ้าหลวงกาวิละ ถูกลงโทษตัดขอบใบหู

  • 0 ตอบ
  • 1387 อ่าน
*

ออฟไลน์ ฮักล้านนา

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • 661
  • 306
    • ดูรายละเอียด
    • วัดร่องขุ่น
เจ้าหลวงกาวิละ ถูกลงโทษตัดขอบใบหู
« เมื่อ: มีนาคม 07, 2020, 04:01:22 PM »
เจ้าหลวงกาวิละ ถูกลงโทษตัดขอบใบหู !!!

พระยาจ่าบ้าน (บุญมา)
ได้รับการสถาปนาเป็น “พระยาวชิรปราการ”
.
เมื่อพระยาจ่าบ้าน (บุญมา)
ยึดเมืองเชียงใหม่จากพม่าได้แล้ว
สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี (สิน)
โปรดเกล้าฯ รับรองสถาปนา

เจ้าพระยาหลวงจ่าบ้าน (เจ้าบุญมา)
อรรคมหาเสนาบดีที่ ๓ ของเมืองเชียงใหม่
เป็น “พระยาวชิรปราการ” (พระยาวิเชียรปราการ) เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ (พ.ศ. ๒๓๑๗-๒๓๒๒)

เจ้าน้อยก้อนแก้ว (หลานเจ้าพระยาหลวงจ่าบ้าน) เป็นพระยาอุปราช เมืองนครเชียงใหม่

เจ้าน้อยโพธิ์ เป็นพระยาราชวงศ์ เมืองนครเชียงใหม่

เช็กคายแคง (พระเมืองไชย หรือ พญาไชยวงศา)
เจ้าเมืองลําพูนเป็น “พระยาไชยวงศา”
เจ้าผู้ครองนครลําพูนตามเดิม

เจ้าน้อยตอนต้อ (น้องเช็กคายแคง)
เป็นพระยา อุปราช เมืองนครลําพูน

เมืองนครเชียงใหม่ เมืองนครลําปาง
และ เมืองนครลําพูน
จึงกลายเป็นประเทศราชของสยาม
ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๓๑๗ เป็นต้นมา
.
ข้าหลวงสยาม ข่มเหงประชาราษฎรล้านนา
จนกระทั่งในปี พ.ศ. ๒๓๒๒
เจ้าพระยาจักรี (ทองด้วง)
และ เจ้าพระยาสุรสีห์ (บุญมา)
สั่งให้ข้าหลวงสยาม ยกพลจํานวน ๓๐๐ คน
มาจากเวียงจันทน์ เพื่อมาดู
หัวเมืองประเทศราชล้านนา
ที่เพิ่งยอม เข้าสวามิภักดิ์

แต่ข้าหลวงสยาม ได้กระทําประพฤติมิชอบ
ข่มเหงชิงทรัพย์ และ ฉุดคร่าข่มขืนหญิงสาว
ชาวบ้าน ชาวเมืองจึงไปร้องทุกข์
ต่อเจ้าหลวงกาวิละ
เจ้าผู้ครองนครลําปางองค์ที่ ๓
(พ.ศ. ๒๓๑๗ - ๒๓๒๕)

เจ้าหลวงกาวิละ จึงได้ทรงยกกําลังไพร่พล
ไปฆ่าข้าหลวงสยาม
บาดเจ็บล้มตายเป็นจํานวนมาก
.
“...เจ้าแม่ทับใหญ่ทั้งสองพระองค์
จึงเกณฑ์กองทับ ๓๐๐ ตนเป็นข้าหลวงลุก
มาแต่เมืองเวียงจัน มาตรวจตรา ผ่อคอย
หัวเมืองทั้งมวล เมืองน่าน เมืองลคร เมืองแพล่ ข้าหลวงหมู่นั้นค็มาข่มเหงคระเนงร้าย
ลู่ชิงเอาสิ่งของเงินคำ ผ้าผ่อนชักลากเอา
ลูกเด็กลูกอ่อน ลูกร้างหลานสาวชาวบ้าน
ชาวเมืองไพ กะทําตามน้ำใจ...”
.
ในส่วนข้าหลวงสยาม ที่รอดตายได้
ลงไปกราบทูลสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี (สิน)
พระองค์จึงมีท้องตราเรียกให้
พระยาจ่าบ้าน (บุญมา)
และ เจ้าหลวงกาวิละ
ให้เข้าเฝ้าถึง ๒ ครั้ง ๓ ครั้ง
และ มีท้องตราเรียกให้เข้าเฝ้าอีก

เมื่อเจ้าหลวงกาวิละ ได้เข้าเฝ้า
จึงทรงให้เฆี่ยนองค์ละ ๑๐๐ ที
และ ปาดขอบหูของเจ้าหลวงกาวิละ ทั้ง ๒ ข้าง
แล้วก็ให้จําคุกไว้ที่กรุงธนบุรี

ต่อมาเจ้าหลวงกาวิละ
จึงทูลขอไปตีเมืองเชียงแสน
เพื่อแก้โทษของตน
ซึ่งสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี (สิน)
ก็โปรดเกล้าฯ ให้คืนอยู่ในราชศักดิ์เดิม
แต่มิได้ให้ เจ้าพพระยาหลวงจ่าบ้าน (เจ้าบุญมา) กลับคืนมาด้วย

ต่อมาไม่นานเจ้าพระยาหลวงจ่าบ้าน (เจ้าบุญมา)
ก็ประชวร และ ถึงแก่พิราลัยในคุกที่กรุงธนบุรี
ใน พ.ศ. ๒๓๒๒

เจ้าหลวงกาวิละ ได้จัดกองทัพคุม
กองกําลัง ๓๐๐ คนขึ้น ไปรบเชียงแสน
แต่ในปี พ.ศ. ๒๓๒๕
ทางสยามมีการผลัดแผ่นดินใหม่

เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (ทองด้วง)
ได้สั่งให้ประหาร สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี (สิน)
และ ทําการปราบดาภิเษก
ขึ้นเป็นพระบาทสมเด็จ
พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (ทองด้วง)
ปฐมกษัตริย์สยามราชวงศ์จักรี (พ.ศ.๒๓๒๕-๒๓๕๒)

และมี เจ้าพระยาสุรสีห์ (บุญมา)
พระราชอนุชา ขึ้นเป็น
กรมพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า)

เจ้าหลวงกาวิละ จึงได้นําสิ่งของเครื่องใช้
และ เชลยศึกเมืองเชียงแสน
ลงไปถวายพระมหากษัตริย์สยามพระองค์ใหม่ พระองค์ก็ทรงถือเป็นความชอบ

จึงโปรดเกล้าฯ รับรองสถาปนา
เจ้าหลวงกาวิละ เจ้าผู้ครองนครลําปางองค์ที่ ๓

เป็น "พระยามังราวชิรปราการกําแพงแก้ว”
(เจ้าหนานกาวิละ)
เจ้าผู้ครอง นครเชียงใหม่องค์แรก
ในราชวงศ์เจ้าเจ็ดตน (พ.ศ. ๒๓๒๕-๒๓๕๘)
ซึ่งขณะนั้นมีพระชนมายุ ๔๐ พรรษา

ขอบคุณเรื่องราวจาก

อภิชิต ศิริชัย
6.3.63

เอกสาร ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่
กำเมือง ถ้าคนเมืองบ่อู้แล้วไผจะอู้